เจาะเคล็ดลับฟักทองเงินล้าน เนื้อแน่น ผลสวย ลูกใหญ่ เป็นเบอร์หัวกว่า 80% มีตลาดรองรับ

       ฟักทอง เป็นพืชอายุสั้น สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 90 วัน ให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมที่มีการเพาะปลูกในหลายพื้นที่ในประเทศไทย นอกจากนี้ ฟักทองยังเป็นพืชที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูก เป็นพืชที่ลงทุนน้อย ทำเงิดี ให้ผลผลิตต่อไร่สูง 

คุณลินดา ภูเรียนรมย์ หรือ แม่นาง 

 

       วันนี้จะพาไปล้วงเคล็ดลับการปลูกฟักทองยังไงให้ได้เบอร์หัวกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ กับ คุณลินดา ภูเรียนรมย์ หรือ แม่นาง เกษตรกรหัวก้าวหน้าที่มีประสบการณ์การปลูกฟักทองอย่างมืออาชีพมากว่า 8 ปี บนพื้นที่ 30 ไร่ และมีลูกไร่ ผู้ปลูกฟักทอง อีกประมาณ 100 ไร่ ครอบคลุมจังหวัดบึงกาฬและนครพนม ฟักทองจัดเป็นพืชที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูง ลงทุนน้อย ทำเงินไว ยิ่งถ้าผลผลิตได้เป็นเบอร์หัวจำนวนมาก บวกกับช่วงฟักทองราคาดี ก็สามารถจับเงินล้านได้สบาย      

ผลผลิตฟักทองเบอร์หัวกว่า 80% ของคุณลินดา 

 

       คุณลินดา เล่าว่าเริ่มแรกเป็นผู้ปลูกเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมาเจอกับปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาไม่ดี แล้วก็ต้องรอพ่อค้ามารับซื้อ ทำให้ผลผลิตตกค้างนานจนเกิดความเสียหาย นอกจากนี้ เราก็ไม่สามารถกำหนดราคาได้เองึงต้องผันตัวจากผู้ปลูก มารับซื้อผลผลิตเอง ไม่ต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นต่อปีจำนวนไม่น้อย  

 

       ตามไปดูเคล็ดลับการปลูกฟักทองของคุณลินดา ภูเรียนรมย์ว่าทำอย่างไรให้ได้ฟักทองเนื้อแน่น ลูกใหญ่ น้ำหนักดี ได้ผลผลิตสูงถึง 6 ตันต่อไร่ เป็นเบอร์หัวกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ได้คุณภาพตรงความต้องการของตลาด 

 

เลือกสายพันธุ์ต้องเหมาะกับฤดู 

ปัจจัยสำคัญให้ผลผลิตดี ลดความเสี่ยงเรื่องโรค 

 

       อย่างที่รู้กันว่าฟักทองเป็นพืชอายุสั้น ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูง สามารถลูกได้ตลอดทั้งปี โดยคุณลินดาจะเลือกปลูกฟักทองเพียง 2 รอบต่อปี คือ แบ่งปลูกในช่วงปลายฝน 1 รอบ และปลูกช่วงหน้าแล้งอีก 1 รอบ คุณลินดา บอกว่า หลังจากปลูกช่วงปลายฝนเสร็จ มักจะมีปัญหาเรื่องโรคและแมลงรบกวนในรอบการปลูกช่วงหน้าแล้ง ทำให้ต้องคัดเลือกสายพันธุ์ที่ต้านทานโรค และทนไวรัสได้ดี โดยคุณลินดาจะเลือกปลูกอยู่ 2 สายพันธุ์  ช่วงหน้าแล้ง จะเลือกปลูกฟักทองพันธุ์เบา สายพันธุ์ทองสยามของบริษัท เจียไต๋ จุดเด่นของสายพันธุ์นี้ ผลจะใหญ่ ทรงกลมสวย ผิวคางคกสม่ำเสมอ ทนไวรัส ก้นหนาทนต่อการขนส่ง เนื้อสีเหลือง รสชาติหวานมันเป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นขวัญใจผู้ปลูก ผู้ค้า และผู้บริโภค และช่วงปลายฝนจะเลือกปลูกฟักทองพันธุ์หนักสายพันธุ์ทองอำไพ 426” ของบริษัท เจียไต๋ จุดเด่นของสายพันธุ์นี้ ทรงผลใหญ่ ผิวคางคกเนื้อหนา น้ำหนักผลเฉลี่ย 6-8 กิโลกรัม ส่วนมากเป็นเบอร์หัว เป็นที่ต้องการของตลาด ลักษณะของเนื้อจะมีความเหนียวแน่น ไส้น้อย เนื้อเยอะ รสชาติหวานมัน เหมาะสำหรับทำอาหารไทย อย่างการนำไปผัด ต้ม หรือแกง 

เมล็ดพันธุ์ฟักทอง สายพันธุ์ทองอำไพ 426 และสายพันธุ์ทองสยาม ของเจียไต๋ 

 

       “การเลือกสายพันธุ์ถือเป็นหัวใจสำคัญที่มีต่อปริมาณผลผลิต โดยต้องเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ต้านทานโรคได้ดี ลูกใหญ่ ผิวคางคก พูหนา ให้ผลผลิตเบอร์หัวจำนวนมาก ซึ่งเมล็ดพันธุ์ของบริษัทเจียไต๋ถือว่าตอบโจทย์เกษตรกรผู้ปลูกอย่างมากคุณลินดาพูดถึงขั้นตอนการเลือกสายพันธุ์ 

 

เตรียมแปลงดี วางระบบน้ำดี 

จุดเริ่มต้นความสำเร็จ 

 

       นอกจากการเลือกสายพันธุ์ที่มั่นใจในด้านคุณภาพแล้ว เคล็ดลับการปลูกฟักทองให้ได้ผลผลิตดี ต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมแปลงปลูก และการวางระบบน้ำที่ดี โดยคุณลินดาจะทำการยกร่องกว้าง 4.5-5 เมตร สำหรับให้เถาฟักทองเลื้อย โดยระยะการปลูกจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ฟักทอง ถ้าเป็นพันธุ์หนัก จะปลูกในระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 100 เซนติเมตร ส่วนพันธุ์เบาจะปลูกในระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 70 เซนติเมตร เพื่อให้ฟักทองมีพื้นที่ในการทอดยอดเลื้อยได้สะดวก ไม่เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลง ดังนั้น การวางระยะห่างในการปลูก จึงเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ เพราะส่งผลต่อคุณภาพ และปริมาณของผลผลิตโดยตรง 

เตรียมแปลงปลูก ให้มีระยะห่างระหว่างร่อง ประมาณ 4.5-5 เมตร 

 

       หลังจากเตรียมแปลงเสร็จแล้ว ในเรื่องของการวางระบบน้ำ เรียกว่า ระบบน้ำราด เป็นการทำร่องน้ำสำหรับปล่อยน้ำเข้าร่อง ตั้งแต่ต้นแปลงถึงปลายแปลง แล้ววางท่อเป็นเส้นตรงยาวบริเวณหัวแปลง จากนั้นทำการต่อน้ำเข้าร่องในแต่ละแถวที่ปลูก เพื่อให้น้ำไหลไปตามร่อง 

ระบบน้ำราดที่ใช้ในการให้น้ำฟักทอง 

 

       ก่อนย้ายต้นกล้าลงปลูกในแปลง คุณลินดาจะใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมด้วย ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 15-15-15 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อให้ฟักทองต้นเล็กเจริญเติบโตได้ดี มีธาตุอาหารบำรุงอย่างต่อเนื่อง 

 

เคล็ดลับการบำรุงฟักทอง ก่อนออกดอก 

ให้ต้นสมบูรณ์ ทอดยอดดี เดินยอดได้ไว 

 

       การปลูกฟักทองให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ คุณลินดา บอกว่า จะให้ความสำคัญกับการบำรุงฟักทองตั้งแต่ช่วง ก่อนออกดอก เพื่อให้ฟักทองต้นเล็กแข็งแร รากเดินดีหาอาหารเก่ง ทอดยอดได้ไว สามารถให้ผลผลิตที่ดีได้ในอนาคต 

 

       ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ฟักทองสามารถเจริญเติบโตได้ดีไม่ได้อยู่ที่การบำรุงเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของการจัดการภายในแปลง อย่างการ “จัดเถาฟักทอง” และ “การต่อดอก” ที่เกษตรกรต้องใส่ใจเป็นพิเศษ 

 

       โดยคุณลินดาอธิบายถึงเคล็ดลับสำคัญของการปลูกฟักทอง เริ่มตั้งแต่ การบำรุง การไว้เถา และการต่อดอกของฟักทอง ดังนี้  

 

       เริ่มจากหลังจากย้ายกล้าลงแปลงปลูกได้ประมาณ 15 วัน คุณลินดาจะเริ่มบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อให้ต้นฟักทองที่ยังเล็กมีความแข็งแรง ใบหนาเขียวสมบูรณ์ สามารถสะสมอาหารได้ดี 

ฟักทองอายุ 15 วัน จะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู ให้ต้นแข็งแรง เดินยอดดี ทอดยอดได้ไว  

 

       พอฟักทองอายุ 30 วัน จะเน้นบำรุงด้วยขี้ไก่ใส่ในร่องแปลงปลูก เพื่อช่วยปรับโครงสร้างดินให้มีความร่วนซุยสามารถระบายน้ำได้ดี และมีธาตุอาหารสมบูรณ์พร้อมสำหรับการติดดอกและบำรุงผล  

 

       โดยในระหว่างนี้ คุณลินดาจะเริ่ม “จัดเถาฟักทอง ควบคู่ไปด้วย ซึ่งธรรมชาติของต้นฟักทองเมื่อเริ่มทอดยอดเลื้อยเถา เราจะเรียกเถาแรกที่ออกมาว่า “เถาหลัก” เมื่อเถาเจริญเติบโตไปจนมีความยาว 30-50 เซนติเมตร โดยประมาณ จะเริ่มคัดเถาให้เหลือไว้เพียต้นละเพียง 2 เถา และควรจัดแนวเถาให้เลื้อยไปในทางเดียวกัน หากปล่อยให้เลื้อยไปตามธรรมชาติ เถาแต่ละต้นก็จะทับซ้อนกันจนทำให้แปลงหนาแน่น แสงแดดส่องไม่ถึง เป็นปัจจัยให้เกิดโรคและแมลงได้ง่าย  

การไว้เถาฟักทอง 

 

       จากนั้นฟักทองอายุประมาณ 45-55 วัน จะเข้าสู่ระยะออกดอก ซึ่งเป็นช่วงการผสมเกสร โดยปกติฟักทองจะเริ่มออกดอกเกสรตัวเมียดอกแรกประมาณข้อที่ 4-5 ซึ่งจะทำการเด็ดทิ้ง และจะเริ่มผสมเกสรดอกที่ 2 จะเริ่มตั้งแต่ข้อที่ 9-12 เพื่อให้การติดผลแน่นอน และเป็นฟักทองที่สมบูรณ์ที่สุด ในช่วงนี้ คุณลินดาจะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อช่วยให้ดอกสมบูรณ์ เตรียมพร้อมสำหรับการติดผล 

ฟักทองอายุประมาณ 45-55 วัน 

 

       อีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้ฟักทองติดผลชัวร์ ต้องทำการผสมเกสรฟักทองด้วยมือ หรือเรียกอีกอย่างว่า การต่อดอก และต้องผสมเกสรช่วงเช้าเท่านั้น โดยคุณลินดาเริ่มผสมเกสรตั้งแต่ตี 5 จนถึงช่วง 8 โมงเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่ดอกเริ่มบาน โดยวิธีสังเกตแยกเพศของดอกฟักทองง่ายๆ คือ ลักษณะดอกของฟักทองจะเป็นดอกไม่สมบูรณ์เพศ จะมีดอกเกสรตัวผู้ และดอกเกสรตัวเมีย แยกออกไปแต่ละดอก โดยดอกตัวผู้จะมีก้านดอกเล็กและเรียว ซึ่งแตกต่างจากดอกตัวเมียซึ่งจะมีรังไข่ ทำให้ก้านของดอกมีขนาดใหญ่กว่า มีลักษณะบวม โปร่งออกมา หรือสามารถสังเกตได้บริเวณเกสร ซึ่งเกสรเพศผู้จะมีเพียงแท่งเดียว แต่เกสรเพศเมียนั้นจะมีหลายแท่งประกบกันอยู่  

ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการผสมเกสรฟักทอง 

 

สูตรเด็ดบำรุงฟักทอง ให้ลูกใหญ่ 

น้ำหนักดี มากกว่า 6 ตันต่อไร่ 

 

       ฟักทองในแต่ละช่วงต้องการธาตุอาหารต่างกัน ดังนั้น การบำรุงให้ตรงตามระยะการเจริญเติบโต จะช่วยเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิตได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณลินดาได้แบ่งการบำรุงออกเป็น 3 ช่วง เริ่มตั้งแต่ระยะติดผลเล็ก ระยะขยายผล และระยะสุกแก่ ตามไปดูเคล็ดลับการปลูกฟักทองยังไงให้ได้ผลผลิตสูงถึง 6 ตันต่อไร่  

ระยะการบำรุงฟักทอง ทั้ง 3 ช่วง แบบฉบับของคุณลินดา 

 

       ระยะติดผลเล็ก ฟักทองน้ำหนักประมาณ 3 ขีด จะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อช่วยในการขยายลูก ให้ได้ผลผลิตดี มีคุณภาพ  

ฟักทองระยะติดผลเล็ก 

 

       ระยะขยายผล ฟักทองน้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม จะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 13-13-24 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อให้ฟักทองสร้างแป้ง ขยายผล ให้ได้ผลผลิตลูกใหญ่ น้ำหนักดี ทรงสวย 

ฟักทองระยะขยายผล

 

       ระยะสุกแก่ ฟักทองน้ำหนักประมาณ 4-5 กิโลกรัม คุณลินดา บอกว่า ระยะนี้ฟักทองเปลือกต้องสีเขียวเป็นพูสม่ำเสมอ ผิวคางคก ถ้ายังไม่ขึ้นสี ขึ้นครก แสดงว่าฟักทองยังต้องการบำรุงอยู่โดยจะบำรุงด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 13-13-24 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อให้ฟักทองสร้างแป้งได้เต็มที่ เนื้อแน่น สีสวย ลูกใหญ่ เป็นเบอร์หัว ก่อนทำการเก็บผลผลิต 

ฟักทองระยะสุกแก่ 

 

       คุณลินดา เล่าให้ฟังว่าตอนที่เริ่มปลูกฟักทองแรกๆ ผลผลิตเมื่อก่อนไม่ได้ดีเหมือนทุกวันนี้ ไม่รู้ว่าระยะไหนต้องใส่ปุ๋ยบำรุงยังไง จนหลังๆ ผลผลิตดีขึ้น ได้ผลผลิตตามที่ตลาดต้องการ โดยมีทีมงานส่งเสริมของบริษัท เจียไต๋ เข้ามาแนะนำให้ใช้ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู เม็ดปุ๋ยละลายน้ำง่าย พืชกินปุ๋ยได้ไว ต้นเจริญเติบโตและทอดยอดดี เดินยอดได้ไว ต้นสมบูรณ์ และอีกสูตรที่ขาดไม่ได้เลย ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 13-13-24 เป็นปุ๋ยสำหรับบำรุงขยายผล ได้ฟักทองทรงสวย ผลกลม เบอร์หัวเยอะ ซึ่งคุ้มค่าต่อการลงทุนมาก เพราะการบำรุงฟักทองถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จะได้ผลดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่ที่การบำรุง  

เลือกใช้ปุ๋ยคุณภาพ ช่วยให้ได้ฟักทองทรงสวย ลูกใหญ่ น้ำหนักดี 

 

ผลผลิตเบอร์หัว มากกว่า 80%  

คุณภาพดี มีตลาดรองรับ 

 

       หลังจากที่เก็บเกี่ยวผลผลิตเรียบร้อย คุณลินดาจะทำการคัดฟักทอง ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 เบอร์ คือ

       “เบอร์หัวขนาดผลของฟักทองจะลูกใหญ่ ทรงสวย น้ำหนักตั้งแต่ 4 กิโลกรัมขึ้นไป  

       “เบอร์รองขนาดผลของฟักทองจะเล็กลง น้ำหนักจะต่ำกว่า 4 กิโลกรัม  

       “เบอร์หางจะเป็นในลักษณะลูกบิดเบี้ยว พูแลบ  

 

       ซึ่งผลฟักทองที่ดีที่ตลาดต้องการ ผลจะกลม สีสวย สุกสม่ำเสมอ พูไม่แลบ ไม่บิดเบี้ยว ในการรับซื้อฟักทองจะแบ่งไปตามขนาด ดังนี้ 

  • เบอร์หัว ตั้งแต่น้ำหนัก 4 กิโลกรัม ราคารับซื้อ 16 บาทต่อกิโลกรัม 
  • เบอร์รอง น้ำหนัก 2-4 กิโลกรัม ราคารับซื้อ 12 บาทต่อกิโลกรัม 
  • เบอร์หาง น้ำหนัก 1-2 กิโลกรัม ราคารับซื้อ 6 บาทต่อกิโลกรัม 

การแบ่งไซซ์ฟักทองแต่ละเกรด 

 

       ซึ่งส่วนใหญ่เกษตรกรผู้ปลูกจะได้ผลผลิตที่เป็นเบอร์หัวเยอะ รวมถึงคุณลินดาที่ได้ผลผลิตสูงถึง 6 ตันต่อไร่ ได้เบอร์หัวกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ขายได้ราคา กำไรงาม หากช่วงไหนราคาดีก็จับเงินล้านได้ไม่ยาก 

 

       กว่าจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางการปลูกฟักทองกว่า 8 ปี คุณลินดาลองผิดลองถูก หมั่นเรียนรู้พัฒนามาเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จ เป็นเกษตรกรรู้จริง ในการปลูกฟักทอง รวมถึงมีการดูแลลูกไร่ และให้คำแนะนำการเพาะปลูก เพื่อให้ได้ฟักทองน้ำหนักดี เป็นเบอร์หัว และคุณภาพเป๊ะ โดยเน้นขั้นตอนการบำรุงให้ครบตามระยะที่พืชต้องการ และหมั่นตรวจแปลงทุกวัน รับรองเห็นกำไร คุ้มเหนื่อยแน่นอน แบบชัวร์เด๊ะๆสมหวัง เป๊ะๆ กันเลยค่ะ   

ปลูกฟักทองอย่างมืออาชีพ ได้ผลผลิตคุณภาพ ได้ผลผลิตสูงถึง 6 ตันต่อไร่ 

 

สำหรับผู้ที่สนใจเคล็ดลับในการทำการเกษตร สามารถติดตามสาระเกษตรน่ารู้ ได้ที่  

คลิก เคล็ดลับการบำรุงฟักทอง ให้ลูกใหญ่ เป็นเบอร์หัว ขายได้ราคา ตรงตามตลาดต้องการ

 
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้า และข่าวสารจากปุ๋ยตรากระต่าย เพิ่มเติมได้ที่  
 

Facebook: www.facebook.com/puitrakratai/   

YouTube: www.youtube.com/c/Puitrakratai   

TikTokhttps://www.tiktok.com/@puitrakratai   

ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่ายhttps://www.chiataigroup.com/business/fertilizer/Puitrakratai-Fruits-Vegetables