เคล็ดลับปลูก “ส้มโอคุณภาพ” เปลือกบาง กุ้งใหญ่ รสชาติหวานอร่อย

       “ส้มโอ” เป็นไม้ผลที่สำคัญทางเศรษฐกิจที่มีความต้องการบริโภคภายในประเทศ และมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูกส้มโอมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากส้มโอสามารถปลูกได้ทั่วประเทศ และมีจุดเด่นคือสามารถให้ผลผลิตต่อเนื่อง 20-30 ปี หากมีการดูแลและบำรุงต้นให้สมบูรณ์  ทำให้การทำสวนส้มโอได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น สำหรับส้มโอคุณภาพมาตรฐานส่งออก จะมีลักษณะเปลือกบาง รสชาติหวานอร่อย กุ้งใหญ่ ผิวสวย มีตลาดรองรับหลากหลาย  สร้างรายได้อย่างมั่นคงให้แก่พี่น้องชาวสวนได้เป็นอย่างดี

สวนส้มโอคุณภาพระยะบำรุงขยายผล 

ขั้นตอนการปลูกและการบำรุง "ส้มโอ"แบบฉบับมืออาชีพ

       1. การเตรียมดิน เริ่มโดยการไถพรวนให้ดินร่วนซุย พร้อมกำจัดวัชพืช จากนั้นทำการทดสอบและปรับสภาพดิน ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (ค่า pH) ที่เหมาะสำหรับการปลูกส้มโอ

อยู่ที่ 5 – 6

การวางแปลงปลูกส้มโอ ระยะ 6x8 เมตร

       2. การจัดการแปลงปลูก แนะนำให้เว้นระยะห่างระหว่างแถว 8 เมตร และระหว่างต้น 6 เมตร (8x6 เมตร) โดยพื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกได้ประมาณ 34 ต้น หรือสามารถปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของพื้นที่ แต่ไม่ควรปลูกชิดจนเกินไป เพื่อไม่ให้ทับกิ่งซ้อนกัน และให้แสงแดดส่องทั่วถึง

      ส้มโอเป็นพืชที่บริเวณรากไม่ชอบความแฉะ แนะนำให้ “ยกร่อง” ในลักษณะหลังเต่า จะช่วยเรื่องการระบายน้ำได้ดีและช่วยเรื่องการทำดอก โดยหลักการ คือ การลดความชื้นในดินในช่วงเวลาที่พืชสร้างตาดอก จะช่วยกระตุ้นให้ส้มโอสร้างตาดอกได้ดี

      3. การปลูกต้นพันธุ์ แนะนำให้ทำการขุดหลุมลึกประมาณ 50 ซม.จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุม ปริมาณ 3-5 กิโลกรัม แล้วนำต้นพันธุ์วางไว้ตรงกลางหลุมและกลบดินทับ ส้มโออายุ 1-3 ปี ควรให้ปุ๋ยคอกผสมกับปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง อัตรา 200 กรัม/ต้น

เทคนิคการยกโขด ช่วยให้ต้นส้มโอที่ปลูกใหม่โตเร็ว

       4. เมื่อเตรียมแปลงเสร็จเรียบร้อย แนะนำให้ทำการถมดินหรือพูนดิน ให้สูงขึ้นกว่าระนาบบริเวณหลุมปลูก หรือเรียกว่า “โยกโขด” ข้อดีคือช่วยให้ต้นส้มโอโตเร็วในระยะต้น  เมื่อใส่ปุ๋ยลงไปรากสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น ทำให้ต้นสมบูรณ์ หากพื้นที่ปลูกมีลมแรงควรทำการค้ำกิ่งหลักเพื่อป้องกันต้นส้มโอล้ม หรือหากส้มโอให้ผลผลิตแล้วควรค้ำกิ่งที่ติดผลมาก เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักจากพายุหรือลมแรง และช่วยรับน้ำหนักของผลส้มโออีกด้วย

การบำรุง “ส้มโอ” ตามระยะการเจริญเติบโต

ขั้นตอนการบำรุง "ส้มโอ" ให้ผลผลิตคุณภาพ เปลือกบาง รสชาติหวานอร่อย กุ้งใหญ่ ผิวสวย

• ระยะฟื้นต้นสมบูรณ์ 

       หลังจากเก็บผลผลิตเรียบร้อย ต้องบำรุงต้นส้มโอให้กลับมาสมบูรณ์ พร้อมที่จะให้ผลผลิตในฤดูกาลถัดไป แนะนำใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู อัตรา 2 กิโลกรัม/ต้น ช่วยฟื้นต้นได้ไว เม็ดปุ๋ยละลายง่าย รากดูดซึมธาตุอาหารได้ทันที ทำให้ใบกว้าง ใบเขียวเข้มและเขียวนาน

• ระยะสะสมอาหาร

       แนะนำบำรุงธาตุฟอสฟอรัส(P) และธาตุโพแทสเซียม(K)ที่สูงขึ้น พร้อมกับทำการให้น้ำต้นส้มโอเต็มที่ แนะนำใส่ปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 9-25-25 ผสมกับปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู (สัดส่วน1:1) อัตรา 1.5-2 กิโลกรัม/ต้น ช่วยเพิ่มความสมบรูณ์ของต้นเพื่อสร้างตาดอก และออกดอกที่สมบูรณ์

• ระยะแทงช่อดอก

      แนะนำใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู อัตรา 1.5-2  กิโลกรัม/ต้น ช่วยบำรุงผลเล็กและช่วยในการติดผลที่สมบูรณ์

• ระยะบำรุงผลอ่อน (ขนาดผลเท่าลูกมะนาว)

      แนะนำใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 13-13-24 อัตรา 1.5-2  กิโลกรัม/ต้น ช่วยขยายผล  สร้างเนื้อ เพิ่มน้ำหนัก

• ระยะขยายผล เพิ่มรสชาติ

      ส้มโอผลใหญ่ เข้าสู่การสร้างรสชาติ เพิ่มความหวาน แนะนำใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 15-9-20 อัตรา 1.5-2  กิโลกรัม/ต้น เพื่อบำรุงเนื้อให้กุ้งใหญ่ เปลือกบาง เป็นที่ต้องการของตลาด

ส้มโอระยะบำรุงขยายผล ก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต

     การปลูกส้มโอให้ได้คุณภาพ ทรงสวย เปลือกบาง รสชาติหวานอร่อย ต้องใส่ใจดูแลและอาศัยเทคนิคการบำรุงธาตุอาหารให้สอดคล้องกับการเจริญเติบโตในทุกๆ ระยะตั้งแต่การฟื้นต้น ทำใบ สะสมอาหาร ทำดอก และช่วงขยายผล ก่อนทำการเก็บผลผลิตให้เป็นที่ต้องการของตลาด

สามารถติดตามสาระเกษตรน่ารู้ ได้ที่

คลิก ปลูก "ส้มโอ" ให้โกอินเตอร์ ต้องลูกใหญ่ ทรงสวย หวานฉ่ำ มาตรฐาน GAP

ติดตามข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้า และข่าวสารจากปุ๋ยตรากระต่าย เพิ่มเติมได้ที่

Facebook: www.facebook.com/puitrakratai/

Youtube: www.youtube.com/c/Puitrakratai

ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่าย : http://www.chiataigroup.com/business/fertilizer/puitrakratai