ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ปริมาณน้ำฝนที่ลดลง ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง เสี่ยงเกิดการระบาดของโรคพืช แมลงศัตรูพืชและวัชพืชมากขึ้น เป็นอุปสรรคต่อการเพาะปลูกพืช ขณะเดียวกัน มีการใช้สารเคมีในปริมาณที่มากขึ้น ทำให้มีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และผลกำไรลดน้อยลง
แต่คุณน๊อต-นันทวัฒน์ หลักทรัพท์ เกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรงวัย 28 ปี สามารถรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้อย่างดี เพราะวางแผนการปลูกอย่างเป็นระบบ หว่านปุ๋ยบำรุงข้าวให้ถูกช่วง และเลือกใช้ปัจจัยการผลิตที่ดีมีประสิทธิภาพ พ่นสารอารักขาพืช ให้ถูกเวลา คุมต้นทุนได้ แถมข้าวโตไว รวงใหญ่ น้ำหนักดี ได้ผลผลิตถึง 1.2 ตันต่อไร่ ตามไปดูสูตรสำเร็จของคุณน๊อต ว่ามีวิธีทำนาอย่างไรให้ได้ผลผลิตดี มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
คุณน๊อต-นันทวัฒน์ หลักทรัพท์ เกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ใส่ใจเรียนรู้พัฒนาอาชีพทำนา
เกษตรกรรุ่นใหม่ มุ่งมั่นเรียนรู้
พัฒนาอาชีพทำนาตลอดเวลา
ครอบครัวคุณน๊อตดำเนินธุรกิจให้บริการรถเกี่ยวนวดข้าวอยู่ในพื้นที่อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท หลังเรียนจบปริญญา คุณน๊อตกลับมาช่วยดูแลกิจการครอบครัว และลงทุนให้บริการโดรนการเกษตรแก่เกษตรกรในพื้นที่ คุณน๊อตอยากรู้ว่า ทำไมชาวนาบางคน ยิ่งทำนายิ่งจน แต่บางคนทำนาแล้วรวย จึงมือทำนาด้วยตัวเอง เริ่มต้นที่ 10 ไร่ ปรากฏว่าได้ผลผลิตแค่ 900 กิโลกรัมต่อไร่ เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องการทำนามากพอ
คุณน๊อตกล่าวว่า หลังจากผมใส่ใจเรียนรู้วิธีการปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตดีทุกขั้นตอน หมั่นสังเกตการเติบโตทุกช่วงอายุของข้าว และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ นำมาใช้ป้องกันโรคแมลงได้อย่างเหมาะสมและใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริม นอกจากเป็นเครื่องทุ่นแรงแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลา ควบคุมต้นทุนได้ และสามารถเพิ่มผลผลิตเป็น 1.2 ตันต่อไร่ ผมจึงขยายพื้นที่ทำนาเป็น 200 ไร่ในปัจจุบัน
คุณน๊อต ใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรกลเพื่อประหยัดเวลาและลดต้นทุนแรงงาน
ใส่ใจการเตรียมแปลงก่อนทำนา
แช่เมล็ดพันธุ์ข้าวก่อนหว่าน ให้งอกดี
“การเตรียมดิน” เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการทำนา เพราะการเตรียมดินอย่างเหมาะสม ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน เอื้อต่อการเจริญเติบโตของข้าวอีกด้วย
ขั้นตอนการเตรียมดินของคุณน๊อต เริ่มจากไถกลบฟาง ตากดินไว้ 2 สัปดาห์ จากนั้นปล่อยน้ำเข้านา และฉีดพ่น EM เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มความสมบูรณ์ของดินให้ดีขึ้น ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการทำเทือกตามลำดับ
ปัจจุบันคุณน๊อตปลูกข้าวจำนวน 2 สายพันธุ์คือ ข้าวหอมปทุม 1 และข้าว กข. 61 ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ปลูก ดูแลง่าย โตไว ให้ผลผลิตดี คุณน๊อตซื้อพันธุ์ข้าวดังกล่าวมาจากร้านขายพันธุ์ข้าวที่ผ่านการรับรองจากกรมการข้าว
เคล็ดลับของคุณน๊อต จะผสมอโทนิคอัตรา 3 ลิตร ลงไปแช่เมล็ดพันธุ์ด้วย
อโทนิค ช่วยเพิ่มอัตราการงอก เพิ่มรากฝอย กล้าพืชแข็งแรง
ในระหว่างการเตรียมแปลง คุณน๊อตจะทำการแช่เมล็ดพันธุ์ข้าวก่อนหว่าน โดยเริ่มจากนำเมล็ดพันธุ์ข้าวแช่ในอ่างน้ำขนาดความจุ 3,000 ลิตร และเคล็ดลับของคุณน๊อต จะผสม อโทนิค ในอัตรา 3 ลิตร ลงไปแช่เมล็ดพันธุ์ด้วย หลังผ่านไป 12 ชั่วโมงก็จะทำการปล่อยน้ำ ให้เมล็ดพันธุ์ข้าวตากอากาศอีก 12 ชั่วโมง จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์ข้าวไปหว่านในแปลงนา
ซึ่งข้อดีของการใช้อโทนิคแช่ข้าว ได้แก่
คุณน๊อตใช้ปุ๋ย และสารอารักขาพืชเป็นระยะ เพื่อลดปัญหาโรคแมลง ทั้งช่วยให้ต้นข้าวเติบโตแข็งแรง
ใช้ปุ๋ย ใช้สารอารักขาพืชอย่างถูกวิธี ช่วยให้ต้นข้าวแข็งแรง
คุณน๊อตใช้ ซีเฮอร์ (เพรทิลาคลอร์) ควบคุมวัชพืชในระยะ 0-4 วัน (ระยะคุมเลน)
ระยะ 0-4 วัน (ระยะคุมเลน)
ในช่วงเริ่มต้นของการเพาะปลูก วัชพืชมักเจริญเติบโตได้รวดเร็ว สามารถแย่งน้ำและสารอาหารจากข้าวได้ ทำให้ต้นข้าวเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ ซึ่งคุณน๊อต จะใช้ ซีเฮอร์ (เพรทิลาคลอร์) ในอัตรา 250 ซีซี.ต่อไร่ เพื่อควบคุมวัชพืชในช่วงนี้ เมื่อปัญหาวัชพืชในนาน้อยลง คุมหญ้าดี เห็นได้ชัดว่า หน่อข้าวสมบูรณ์ แทงยอดไว ข้าวเขียวนาน
ใช้เทคนิคคุมเลน - กำจัดวัชพืชและแมลง ในระยะกล้า 7-12 วัน
ระยะกล้า 7-12 วัน (คุม-ฆ่า)
ปัญหาหลักที่พบเจอบ่อยในระยะกล้า 7-12 วัน คือ อาการข้าวแดง ข้าวงัน ที่เกิดจากผลกระทบของสารกำจัดวัชพืช ทั้งพบการระบาดของเพลี้ยอีกด้วย ซึ่งระยะนี้คุณน็อตจะใช้ชุดคุมเลน ประกอบด้วย
ใช้ อิมาร์ (อีมาเมกตินเบนโซเอต) และไพรีซาน (คาร์เบนดาซิม) บำรุงข้าวระยะแตกกอ
ระยะแตกกอ 13 -20 วัน
การดูแลข้าวระยะแตกกอ เป็นช่วงที่สำคัญมาก เนื่องจากเป็นระยะที่ข้าวเริ่มเจริญเติบโตและเตรียมตัวเพื่อการตั้งท้อง ออกดอก และการสร้างเมล็ดข้าว ช่วงนี้ข้าวต้องการสารอาหารเพื่อไปหล่อเลี้ยงทั้งต้นและใบ ดังนั้นคุณน๊อต จึงใส่ใจบำรุงสารอาหาร ทั้งปุ๋ยและฮอร์โมน เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตและการสร้างเมล็ดพร้อมดูแลป้องกันศัตรูพืชและโรคพืช ดังนี้
1. บำรุงทางดิน ด้วยปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 ในอัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อช่วยบำรุงข้าว ให้แตกกอดี ใบเขียวสวย
ใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 ช่วยบำรุงข้าว ให้แตกกอดี ใบเขียวสวย
2. หลังหว่านปุ๋ยไปแล้ว 5 วัน จะใช้ อิมาร์ (อีมาเมกตินเบนโซเอต) อัตรา 100 ซีซี.ต่อไร่ เพื่อป้องกันหนอนเพลี้ยไฟและแมลงศัตรูพืช
3. ใช้ไพรีซาน (คาร์เบนดาซิม) อัตรา 100 ซีซี.ต่อไร่ เพื่อป้องกันและกำจัดโรคพืชชนิดดูดซึม เช่น ใบจุดสีน้ำตาลข้าว ฯลฯ
นอกจากฉีดพ่น สารป้องกันกำจัดโรคพืช ในระยะนี้แล้ว คุณน๊อตจะหมั่นเดินตรวจแปลงนาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเฝ้าสังเกตโรคแมลงอย่างใกล้ชิด พร้อมรักษาระดับน้ำในแปลงนาที่ระดับ 15 เซนติเมตรซม.จนต้นข้าวอายุ 40 วัน
เคล็ดลับบำรุงรวงอ่อนใน “ระยะ 4.1” ให้สมบูรณ์แข็งแรง
ใส่ใจบำรุงทุกระยะสร้างรวงอ่อน
ช่วยให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ
เมื่อข้าวอายุ 40 วัน ต้องการธาตุอาหารไปสร้างเมล็ด สร้างรวงอ่อนเรียกว่า ระยะ 4.1 จนไปถึงระยะ 4.9 คือ ระยะหางปลาทู
คุณน๊อตมีเคล็ดลับง่ายๆ ในการสังเกตต้นข้าวว่า ถึง“ระยะ 4.1” แล้วหรือยังโดย นำต้นข้าวมาผ่าดู หากเห็นรวงพูน้อยๆ แสดงว่าเป็น “ระยะ 4.1” แล้ว ซึ่งเป็นระยะสร้างดอกอ่อน ต้นข้าวต้องใช้พลังงานมากสำหรับการสร้างรวง สร้างเมล็ด จำนวนเมล็ดข้าวที่จะเจริญเติบโตต่อไปจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการบำรุงในระยะนี้
“ระยะ 4.1” นำต้นข้าวมาผ่าดู หากเห็นรวงพูน้อยๆ
“ระยะ 4.1” จำเป็นต้องบำรุงธาตุอาหาร ป้องกันโรคและแมลง เพื่อให้ข้าวพัฒนาสร้างระแง้ สร้างเมล็ดและโครงสร้างรวงให้สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งคุณน๊อตมีเทคนิคบำรุงรวงอ่อน ดังนี้
1. ใช้นิวฟอส (กรดฟอสโฟนิก) อัตรา 100 ซีซี.ต่อไร่ ช่วยใช้ข้าวกินปุ๋ย รากไม่ดำ รากขาว
2. พาบินส์ (ไพราโคลสโตรบิน) อัตรา 50ซีซี.ต่อไร่ ป้องกันกำจัดโรคที่เกิดจากเชื้อราในข้าวได้ทุกชนิด เช่น โรคเมล็ดด่าง โรคใบจุดสีน้ำตาล โรคกาบใบแห้ง โรคใบขีดสีน้ำตาล เป็นต้น
3. อวาทา (อินดอกซาคาร์บ) อัตรา 20 กรัมต่อไร่ เพื่อป้องกันกำจัดเชื้อรา แบคทีเรีย และป้องกันหนอนผีเสื้อ ในแปลงนา
4. ใส่ปุ๋ยบำรุงทางดิน โดยใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-20-0 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อบำรุงการสร้างรวง ช่วยให้ข้าวเต็มเมล็ด
ใส่ปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-20-0 บำรุงการสร้างรวง ช่วยให้ข้าวเต็มเมล็ด
คุณน๊อต พบว่า ข้าวอายุ 55-70 วัน (ระยะรับรวง) หากปล่อยให้ข้าวเติบโตสมบูรณ์มากเกินไป เสี่ยงเจอโรคแมลงรบกวนได้ง่าย จึงใช้เทคนิคแกล้งข้าว โดยปล่อยน้ำออกจากแปลงให้หมด จนดินแห้ง ให้ข้าวขาดน้ำนาน 15 วันก่อนปล่อยน้ำเข้านา วิธีนี้จะกระตุ้นให้รากและลำต้นข้าวแข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งลดการระบาดของโรคและแมลงได้ ที่สำคัญได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นกว่าการปล่อยน้ำท่วมขังในแปลงนา
เทคนิคเปียก สลับ แห้ง แกล้งข้าว
เพิ่มปริมาณและคุณภาพผลผลิต
การทำนาเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว คือ การปล่อยให้ข้าวขาดน้ำในช่วงเวลาที่เหมาะสม นอกจากช่วยประหยัดน้ำได้ถึงร้อยละ 30-50 แล้ว ในสภาพดินแห้ง รากข้าวได้รับอากาศสามารถแตกรากข้าวใหม่มากขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับธาตุอาหารได้ดีขึ้น ต้นข้าวแข็งแรงขึ้น ทนต่อโรคและแมลงศัตรูข้าวได้ดีขึ้น (ข้อมูล: กรมการข้าว)
คุณน๊อต กล่าวว่า ผมใช้เทคนิคแกล้งข้าว โดยปล่อยน้ำออกจากนาประมาณ 15 วัน ทำให้ต้นข้าวขาดน้ำ จนใบเหลือง วิธีนี้จะกระตุ้นให้ต้นข้าวสร้างภูมิต้านทานในตัวเอง เมื่อต้นข้าวแข็งแรง จะไม่ล้มง่าย
คุณน๊อต ใช้เทคนิคแกล้งข้าว โดยปล่อยน้ำออกจากนาประมาณ 15 วัน
ระยะกัดหางปลาทู 70 วัน
ระยะกัดหางปลาทู คือ ช่วงที่ต้นข้าวสร้างดอก สร้างรวงอ่อน และเริ่มขยายขนาดของรวงและพัฒนาเกสรตัวผู้และตัวเมีย ซึ่งเกสรที่สมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรค ขณะที่สร้างรวงจะทำให้รวงข้าวพัฒนาเป็นเมล็ดข้าวที่สมบูรณ์เต็มเมล็ด ช่วงนี้พืชต้องการธาตุอาหารจำนวนมาก ควรต้องเพิ่มธาตุอาหารให้เพียงพอไม่ว่าจะเป็นทางใบหรือทางราก
สูตรเคล็ดลับบำรุงรวงอ่อนในระยะกัดหางปลาทู 70 วัน
ระยะข้าวกัดหางปลาทู หรือระยะ 4.9 คุณน๊อต จะปล่อยน้ำเข้าแปลงนา ทำให้ต้นข้าวฟื้นตัวกลับมาเขียวเหมือนเดิม คุณน๊อต มีเทคนิคบำรุงรวงอ่อนในระยะนี้ เพื่อให้เกสรข้าวสมบูรณ์ ผสมติดดี ให้พลังงานแก่ข้าวเพื่อนำไปใช้สร้างรวง สร้างระแง้ สร้างเมล็ดต่างๆ รวมทั้งป้องกันโรคเกิดจากเชื้อราจะมาทำลายข้าว ดังนี้
1. นิวฟอส (กรดฟอสโฟนิก) อัตราส่วน 125 ซีซี.ต่อไร่ เพื่อป้องกันกำจัดโรคแบคทีเรีย
2. พาบินส์ (ไพราโคลสโตรบิน) อัตรา 25 ซีซี.ต่อไร่ เพื่อป้องกันปัญหาเชื้อรา แบคทีเรีย
3. อวาทา (อินดอกซาคาร์บ) อัตรา 20 กรัมต่อไร่ เพื่อป้องกันหนอน
4. อโทนิค อัตราส่วน 60 ซีซี.ต่อไร่ ช่วยให้ต้นข้าวสมบูรณ์
เทคนิคบำรุงข้าวอายุ 85-90 วันในระยะโผล่เผล่
ระยะโผล่เผล่
ข้าวอายุ 85-90 วันหรือในระยะโผล่เผล่ ซึ่งข้าวออกรวงแล้วประมาณ 5% เป็นช่วงที่ต้องคอยระวังโรคแมลง ซึ่งคุณน๊อตมีเคล็ดลับการดูแลป้องโรคแมลงดังนี้
1. บลาสแบน (ไตรไซคลาโซล) อัตรา 20 กรัม ต่อไร่ เพื่อป้องกันและกำจัดโรคขอบใบไหม้และโรคเน่าคอรวงในข้าว
2. แมงเกอร์ (ฟิโพรนิล) อัตราส่วน 100 ซีซี.ต่อไร่ เพื่อกำจัดเพลี้ยไฟ
3. อโทนิค อัตราส่วน 60 ซีซี.ต่อไร่ เพื่อช่วยบำรุงต้นข้าวเขียว แตกรวงดี เมล็ดข้าวสวย
บำรุงตามสูตรของคุณน๊อต จะช่วยให้ข้าวแตกรวงดี เมล็ดข้าวสวย
ความสำเร็จฉบับเกษตรกรยุคใหม่
ทำนาให้ได้ผลผลิตสูง ทำได้ไม่ยาก
คุณน๊อต นับเป็นเกษตรกรต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการทำนา เนื่องจากใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การแช่ข้าว การเตรียมแปลง สังเกตการเจริญเติบโตของข้าว ใช้เทคนิคแกล้งข้าวเพื่อเพิ่มภูมิความแข็งแรงของข้าว ใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับข้าวในแต่ละระยะ เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งความรู้เรื่องการจัดการโรคพืช และแมลง เข้ามาช่วยพัฒนาการปลูกข้าวอยู่เสมอ
“อโทนิค” ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของข้าวทุกระยะ ทำให้ได้ผลผลิตล้นนา สร้างผลกำไรได้ทุกรอบ
รวมทั้งการเลือกปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ อย่างเช่น อโทนิค เทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่นทุกระยะการเติบโต ช่วยให้เกสรข้าวสมบูรณ์ แข็งแรง เพิ่มเปอร์เซ็นต์การผสมติดของข้าว เมล็ดข้าวมีการเจริญเติบโตที่สวย สมบูรณ์ เมล็ดไม่ลีบ ทำให้ข้าวสุกเสมอกัน มีน้ำหนักดี ได้ผลผลิต 1.2 ตันต่อไร่ ซึ่งการวางแผนการจัดการอย่างเป็นระบบ ทำให้คุณน๊อต สามารถควบคุม ลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เท่ากับเพิ่มโอกาสสร้างผลกำไรได้ทุกรอบการผลิตได้อย่างมั่นคง
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้า และข่าวสารจากอารักขาพืชเจียไต๋ เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: www.facebook.com/ChiataiPlantprotection
YouTube: https://www.youtube.com/@Chiataiplantprotection
ข้อมูลสินค้าอารักขาพืช : https://www.chiataigroup.com/business/plantprotection/FoliarFertilizerAndHormone