เมื่อพูดถึง “ทุ่งบางระกำ” ในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก หลายคนมักรู้จักกันในฐานะเป็น “พื้นที่รับน้ำ” จากภาคเหนือก่อนลงสู่ภาคกลาง ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมยาวนานเป็นประจำทุกปี จนเป็นข้อจำกัดในการทำการเกษตร โดยเฉพาะการปลูก “ข้าว” ซึ่งเป็นพืชที่มีการเพาะปลูกมากที่สุดในจังหวัด (ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร)
แต่สำหรับคุณเพยาว์ ชื่นกลิ่น หรือ ลุงเยา เกษตรกรผู้ปลูกข้าว วัย 65 ปี ชาว อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำบางระกำ สามารถปรับตัวและบริหารพื้นที่รับน้ำแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี จนสามารถปลูกข้าวได้ปีละ 2 ครั้ง ตามแบบฉบับบางระกำโมเดล โดยรอบแรก ปลูกก่อนปล่อยน้ำเข้าทุ่ง ช่วงเดือนเมษายน-สิงหาคม และรอบที่สอง จะเริ่มปลูกข้าวหลังจากที่น้ำเริ่มลดแล้ว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม ด้วยวิธีการบริหารจัดการดังกล่าว บวกกับการใส่ใจในทุกขั้นตอนการปลูกของลุงเยา ทำให้ผลผลิตที่ได้มีปริมาณสูงถึง 1.3 ตันต่อไร่ ขณะที่บางพื้นที่ที่ไม่มีการปรับตัว สามารถปลูกข้าวได้รอบเดียวต่อปี ซึ่งนาข้าว จ.พิษณุโลกมีผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 597 กิโลกรัม/ไร่เท่านั้น (ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 พิษณุโลก)
พื้นที่บางระกำ ถูกใช้เป็นแก้มลิงธรรมชาติ ต้องวางแผนการปลูกอย่างรอบคอบ
การวางแผนการเพาะปลูกที่เป็นระบบ ภายใต้การนำของลุงเยา ทำให้ศูนย์ข้าวชุมชนผลิตเมล็ดพันธุ์คลองแยงมุม เป็นตัวอย่างในการบริหารจัดการพื้นที่ในบางระกำโมเดล ที่ให้ผลผลิตคุณภาพดี และได้ปริมาณสูง แนวคิดของลุงเยาไม่ได้เน้นที่การควบคุมต้นทุนเพียงอย่างเดียว แต่จะให้ความสำคัญที่ผลผลิตปลายทางเป็นหลัก หากได้ผลผลิตคุณภาพและมีปริมาณสูงก็สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตได้อีกด้วย
ใส่ใจเตรียมดิน เตรียมแปลง
เลือกพันธุ์ข้าวให้เหมาะกับพื้นที่ เพิ่มอัตราการงอกสูง
หลังจากกรมชลประทานระบายน้ำออก ให้เหลือน้ำค้างทุ่งไว้ให้เกษตรกรใช้ทำนาปรัง ลุงเยาจะใช้รถไถปรับพื้นที่เตรียมแปลงก่อนลงปลูก โดยใช้รถปั่นนาตีดินให้เป็นเลนแล้วทำเทือกให้พื้นนาเรียบ จะได้ไม่เกิดน้ำขัง ลดโอกาสที่เมล็ดพันธุ์จะเน่าได้มาก ทำให้อัตราการงอกสูง และที่สำคัญยังทำให้วัชพืชขึ้นช้าด้วย
ใช้รถปั่นนาตีดินให้เป็นเลนแล้วทำเทือกให้พื้นนาเรียบ ไม่เกิดน้ำขัง
ลุงเยา ปลูกข้าวพันธุ์ กข95 ซึ่งให้ผลผลิตต่อไร่สูง และเหมาะสำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำ เพื่อให้เมล็ดพันธุ์มีอัตราการงอกสูง ลุงเยาจะเอาเมล็ดพันธุ์ข้าวแช่ในน้ำ 24 ชั่วโมง เพื่อให้เมล็ดข้าวดูดน้ำเข้าไปใช้ในกระบวนการงอก จากนั้นนำขึ้นมาผึ่งอีก 24 ชั่วโมง เพื่อไล่ความร้อนออกจากกระสอบ และช่วยให้เมล็ดพันธุ์ข้าวมีอัตราการงอกสมบูรณ์
นำเมล็ดพันธุ์ข้าวแช่ในน้ำ 24 ชั่วโมง เพื่อให้เมล็ดข้าวดูดน้ำเข้าไปใช้ในกระบวนการงอก
เมื่อเมล็ดข้าวงอกตุ่มตาขาว ก็จะนำไปใส่โดรนเพื่อหว่านข้าวในอัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ หลังจากนั้น ลุงเยา จะปล่อยน้ำออกจากนาทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เมล็ดข้าวเน่าเสียหาย
ใส่ปุ๋ยตรากระต่ายบำรุงธาตุอาหาร
ให้ผลผลิตสูง ชัวร์เด๊ะๆ สมหวังเป๊ะๆ
ลุงเยาบอกว่า การทำนาในรุ่นพ่อแม่ ใส่ปุ๋ยแค่ครั้งเดียวเพราะดินยังสมบูรณ์ดี แต่ทุกวันนี้ สภาพดินไม่ได้สมบูรณ์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว จึงเลือกใช้ “ปุ๋ยตรากระต่าย” บำรุงธาตุอาหารในแปลงนาตามระยะการเติบโตของพืช เพื่อบำรุงต้นข้าวให้มีรวงใหญ่ เมล็ดเต่ง เต็มรวง น้ำหนักดี
โดยจะแบ่งการบำรุงตามระยะการเจริญเติบโต ดังนี้
ระยะแตกกอ (อายุ 15 วัน) ลุงเยาจะใส่ปุ๋ยรอบแรก คือ ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อบำรุงต้นข้าวให้รากแข็งแรง หาอาหารเก่ง ช่วยให้ข้าวแตกกกอได้ดี
ข้าวอายุ 15 วัน ใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 ช่วยบำรุงให้ข้าวแตกกกอได้ดี
ระยะตั้งท้อง (อายุ 30 วัน) จะใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-20-0 ผสมกับปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 (สัดส่วน 2 ต่อ 1) ในอัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อบำรุงต้นข้าวให้แตกกอใหญ่ แทงใบสูง เตรียมพร้อมสำหรับการออกรวงใหญ่
ข้าวอายุ 30 วัน ใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-20-0 และสูตร 46-0-0 เตรียมพร้อมสำหรับการออกรวงใหญ่
ระยะออกดอก-รับรวง (อายุ 60 วัน) จะใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-20-0 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อกระตุ้นให้ต้นข้าวสะสมอาหาร สร้างรวงใหญ่ ออกได้สุดรวง และให้น้ำหนักดี ได้ผลผลิตถึง 1.3 ตันต่อไร่
ข้าวอายุ 60 วัน ใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-20-0 ช่วยให้ข้าวน้ำหนักดี ได้ผลผลิตถึง 1.3 ตันต่อไร่
“ตลอดระยะเวลาทำนามากกว่า 50 ปี ผมไม่เคยเปลี่ยนใจจากปุ๋ยตรากระต่ายเลย เพราะเป็นปุ๋ยที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน อย่างมีอยู่ช่วงนึง ปุ๋ยราคาสูงขึ้น สมาชิกในกลุ่มหันไปลองใช้ปุ๋ยอื่นเพื่อจะลดต้นทุน ปรากฎว่า ใช้แล้วผลผลิตได้ไม่ถึง 1 ตันต่อไร่ ดังนั้นแนวคิดของลุงเยา คือ ทำเหมือนเดิม ดูแลข้าวเหมือนเดิม ใช้ปุ๋ยตรากระต่ายเหมือนเดิม แต่ได้ผลผลิตมากขึ้น ได้เงินเยอะขึ้นครับ” ลุงเยา เผยถึงความประทับใจในปุ๋ยตรากระต่าย
ลุงเยาตรวจแปลงนาทุกวัน เพื่อคอยระวังแมลงศัตรูข้าวและวัชพืช
ใช้เทคนิคปรับคันนาสูง รักษาระดับน้ำ
คุมวัชพืช ไม่ให้โตทันข้าว
“ข้าว” เปรียบเสมือนชีวิตของลุงเยา สิ่งสำคัญในการปลูกข้าว คือ การควบคุมแมลงศัตรูข้าวและวัชพืช ลุงเยาใส่ใจคอยตรวจแปลงนาทุกวัน เพื่อคอยระวัง ไม่ให้แมลงลง หากเริ่มได้กลิ่นเพลี้ย ก็จะฉีดสารป้องกันแมลงทันที พร้อมตรวจสอบคันนาอยู่เสมอ คอยตัดหญ้าหัวคันนาให้เรียบ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาศัยของแมลงที่จะมาทำลายข้าวได้ นอกจากนี้ยังปรับคันนาให้สูงกว่า 1 เมตร เพื่อรักษาระดับน้ำในนาให้สูง เพื่อไม่ให้หญ้าในนาโตทันต้นข้าว
ลุงเยารักษาระดับน้ำในนาให้สูง เพื่อไม่ให้หญ้าในนาโตทันต้นข้าว
ทำเกษตรยุคใหม่ต้องปรับตัว
ใช้เทคโนโลยีควบคุมต้นทุน ประหยัดเวลา
ลุงเยา กล่าวว่า การทำเกษตรยุคใหม่ ต้องรู้จักปรับตัว ปรับแนวคิด เพื่อควบคุมต้นทุน เพิ่มผลผลิต ทำให้ปัจจุบันนั้น ลุงเยาหันมาใช้ “โดรน” สำหรับหว่านเมล็ดพันธุ์ หว่านปุ๋ย และฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืชต่างๆ แทนแรงงานคน
ลุงเยาใช้ “โดรน” หว่านเมล็ดพันธุ์ หว่านปุ๋ย และฉีดพ่นสารกำจัดศัตรูพืชแทนแรงงานคน
โดยเมื่อก่อนนั้นลุงเยา เล่าว่า ต้องใช้แรงงานถึง 4 คน และใช้เวลา 2 วัน กว่าจะหว่านปุ๋ยเสร็จในแต่ละรอบ แต่การใช้โดรนนั้นช่วยลดเวลาลงเหลือเพียงครึ่งวันเท่านั้น ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น เพราะการใช้โดรนนั้นสามารถกำหนดปริมาณของเมล็ดพันธุ์ข้าว หรือปริมาณปุ๋ยต่อพื้นที่ได้อย่างแม่ยำ ทำให้การหว่านทั่วถึง และลดความเสียหายของผลผลิตได้มาก เพราะไม่ต้องลงย่ำแปลงบ่อยๆ นอกจากนี้ ลุงเยายังมีรถเกี่ยวข้าวเป็นของตัวเอง สามารถรับจ้างเกี่ยวข้าวแปลงใกล้เคียง เพื่อเป็นรายได้เสริมได้อีกทางหนึ่งด้วย
แม้ว่า ลุงเยา จะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การปลูกข้าวมาเกือบทั้งชีวิต มีความใส่ใจตั้งแต่การเลือกสายพันธุ์ข้าวให้เหมาะกับพื้นที่น้ำท่วม มีการเตรียมแปลงที่ดี บำรุงธาตุอาหารที่เหมาะกับสภาพดินและช่วงอายุของข้าว ใส่ใจดูแลกำจัดวัชพืช แต่ก็ยังมีการเรียนรู้และปรับตัวอยู่ตลอดเวลานำเทคโนโลยีมาช่วยจัดการพื้นที่เพาะปลูกจนสามารถลดต้นทุน ให้ได้ผลผลิตดีเต็มไร่ แบบชัวร์...เด๊ะๆ สมหวัง เป๊ะๆ ครับ
ลุงเยาไม่เคยเปลี่ยนใจจากปุ๋ยตรากระต่ายเลย เพราะช่วยให้ได้ผลผลิตปริมาณสูงถึง 1.3 ตันต่อไร่
สำหรับผู้ที่สนใจเคล็ดลับในการทำการเกษตร สามารถติดตามสาระเกษตรน่ารู้ ได้ที่
“เคล็ดลับการปลูกข้าวนาปรัง ให้ข้าวรวงใหญ่ ได้น้ำหนัก แบบฉบับเกษตรกรรู้จริง”
“ปลูกข้าว”นาดินเหนียว” ให้รวงใหญ่ ได้น้ำหนัก”
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้า และข่าวสารจากปุ๋ยตรากระต่าย เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: www.facebook.com/puitrakratai/
YouTube: www.youtube.com/c/Puitrakratai
TikTok: https://www.tiktok.com/@puitrakratai
ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่าย: https://www.chiataigroup.com/business/fertilizer/Puitrakratai-Fruits-Vegetables